การตัดคำด้วยฟังก์ชัน substr
“รูปแบบการใช้ฟังก์ชัน substr”
substr (ข้อความ, ตำแหน่งเริ่มต้นของคำที่ต้องการเหลือไว้, จำนวนตัวอักษรที่ต้องการเหลือไว้);
substr (string, start, length);
string คือ สตริงที่ต้องการเปลี่ยน
start คือ ตำแหน่งที่เริ่มต้น โดยเริ่มนับจาก 0
ถ้าเป็นค่า 0 เริ่มที่ตำแหน่งแรก
ถ้าเป็นเลขบวก เริ่มต้นจากตำแหน่งที่กำหนด
ถ้าเป็นเลขลบ เริ่มต้นจากตำแหน่งที่กำหนดโดยนับจากท้ายสตริง
length คือ ความยาวที่ต้องการ
ถ้าเป็นเลขบวก จะเริ่มนับความยาวจากตำแหน่งของพารามิเตอร์ start
ถ้าเป็นเลขลบ จะเริ่มนับความยาวจากท้ายสตริง
“Hello World”
หากต้องการคำว่า word ต้องกำหนดค่าดังนี้
– ตำแหน่งเริ่มต้นหรือstart คือลำดับที่ 6
– จำนวนตัวอักษรที่ต้องการเหลือไว้หรือ length คือ 5 ตัวอักษร
ตัวอย่าง
<?php
echo substr(“Hello world”,6,5);
?>
0 | 1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 0 |
H | e | l | l | o | w | o | r | l | d |
ผลลัพธ์ : world
หากต้องการตัดคำจากหลังมาหน้าก็ได้เช่นกัน โดยตัวอักษรสุดท้ายจะมีลำดับเป็น -1 ลบเพิ่มไปเรื่อยๆ เช่น ถ้าต้องการตัดคำว่า “Developer Book” ให้เหลือเฉพาะ Book หรือต้องการตัดคำว่า Develop ไว้จะแสดงตำแหน่งดังนี้
หากต้องการคำว่า Book ต้องกำหนดค่าดังนี้
– ตำแหน่งเริ่มต้นหรือstart คือลำดับที่ -4
– จำนวนตัวอักษรที่ต้องการเหลือไว้หรือ length คือ 4 ตัวอักษร
หากต้องการคำว่า Develop ต้องกำหนดค่าดังนี้
– ตำแหน่งเริ่มต้นหรือstart คือลำดับที่ 0
– จำนวนตัวอักษรที่ต้องการเหลือไว้หรือ length คือ -7 ตัวอักษร (คือตัด 7 ตัวอักษรทิ้งจากช่วงท้ายประโยค)
ตัวอย่าง
echo substr(“Developer Book “,-4,4);
echo substr(“Developer Book “,0,-7);
?>
-14 | -13 | -12 | -11 | -10 | -9 | -8 | -7 | -6 | -5 | -4 | -3 | -2 | -1 |
D | e | v | e | l | o | p | e | r |
| B | o | o | k |
ผลลัพธ์ : Book
-14 | -13 | -12 | -11 | -10 | -9 | -8 | -7 | -6 | -5 | -4 | -3 | -2 | -1 |
D | e | v | e | l | o | p | e | r |
| B | o | o | k |
*-14 คือ ค่าเริ่มต้นนับเป็น 0 ส่วน-7 คือตัดตัวอักษรทิ้งตั้งแต่ตำแหน่ง-7
ผลลัพธ์ : Develop
Write a Comment